ประกาศ .. เรื่องการยกเลิกอาชีพนักการเมือง

27 ก.พ.

ด้วยเป็นที่ปรากฏชัด ในพฤติกรรมของนักการเมือง ที่เข้ามาเป็นตัวแทนของประชาชนแทนที่จะช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมือง แต่กลับดึงชาติบ้านเมืองให้ตกต่ำ

ละเลยหน้าที่ ที่พึงมีต่อประชาชน

เห็นเรื่องการคอรัปชั่น เป็นเรื่องปกติธรรมดา

เห็นการกินตามน้ำ กินใต้น้ำ เป็นเรื่องปกติที่พึงมี พึงได้

นำงบประมาณแผ่นดินไปท่องเที่ยว ทั้งในและนอกประเทศ

คนมีตำแหน่งในกระทรวง ทบวง กรม ใช้งบแผ่นดิน โฆษณา หาเสียงให้ตัวเอง อย่างไม่ละอาย

นำงบประมาณมหาศาล ออกแจกจ่ายให้ประชาชน ด้วยวิธีการหลากหลาย ไม่คิดถึงภายภาคหน้าจะเกิดผลร้ายอย่างไร

จากการสำรวจทั่วโลก ประเทศไทยติดอันดับโครตโกงระดับต้นๆ อย่างน่าตกใจ

การประชุมในรัฐสภาไม่เคยครบพร้อม ทั้งๆที่เป็นหน้าที่หลักของตนเอง

และประการสุดท้าย ได้มีการรวมหัวกัน ออกกฎหมาย ลงมติ เลื่อนเงินเดือนให้ตัวเอง อย่างไม่ละอายแก่ใจ

ทำตัวเป็นลูกจ้าง แต่เลื่อนเงินเดือนกันเอง โดยนายจ้าง(ประชาชน) ไม่เคยรับรู้

พฤติกรรมโฉด นับวันจะกำเริบเสิบสาน….ย่ามใจ

ด้วยอาศัยอำนาจแห่งสัจธรรม

อำนาจแห่งสุจริต เป็นเกราะป้อง

จึงขอให้ยกเลิกอาชีพนักการเมือง

ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าเหตุการณ์วิกฤติ จะเข้าสู่ภาวะปกติ

ประกาศ ณ.วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๔

ลงชื่อ ประชาชนคนสยาม

ขอบคุณบทความ จากคอลัมน์
” ธรรมดาของโลกจะได้ไม่ต้องโศกสลด”

คุณสมพงษ์ ฟังเจริญจืตต์ หนังสือพิมพื์เราคิดอะไร

ปีที่๑๗ ฉบับที่ ๒๔๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔

ไหว้คัมภีร์

12 ธ.ค.

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” นั่นเป็นข้อบ่งชี้ว่า การเข้าถึงพระพุทธเจ้าโดยแท้จริงนั้นต้องเข้าถึงได้ด้วยการเข้าถึงผลแห่งการ ปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า มิใช่แค่การได้พบพระพุทธเจ้า องค์จริง ดังกรณี “พระวักลิ” ในตอนแรกนั่นแล

ในมหาปรินิพพานสูตร พระพุทธเจ้าตรัสว่า “แม้เทพไท้เทวาที่โปรยปรายดอกไม้ บูชาสรีระของเราตถาคตในวาระก่อนปรินิพพาน ก็ยังไม่ชื่อว่า เป็นการบูชาอันเลิศ”

คำตรัสบอกชัดว่า การบูชาด้วยอามิสนั้นไม่นำไปสู่ที่สุดแห่งทุกข์ได้เลย โดยแท้แล้วพระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญปฏิบัติบูชา ดังคำตรัสที่มักเน้นย้ำว่า พระองค์ต้องการให้สาวกเป็น “ธรรมทายาท” มิใช่ “อามิสทายาท”

หลวงปู่พุทธทาส ท่านแต่งกลอนสอนธรรมไว้ตอนหนึ่งว่า “สมัยนี้พวกเราเอาแต่ไหว้ พอบอกให้ประพฤติธรรมก็กำหู”

นั่นแปลว่า ชาวพุทธไทยโดยมากเป็นพวกมืออ่อนตีนอ่อน มีสัมมาคารวะต่อสิ่งแทนที่เป็นสื่อศรัทธาศาสนาพุทธ มักพากันไปกราบไหว้พุทธศาสนสถาน และพุทธศาสนวัตถุ กันอย่างมืดฟ้ามัวดิน โดยไม่นำพาไปสู่การ “ยึดถือพระไตรรัตน์ ปฏิบัติไตรสิกขา พิจารณาไตรลักษณ์” โดยแท้จริงทั้งทางกาย วาจา และ ใจ

ไม่ได้ปฏิเสธการไปกราบไหว้สักการะเคารพ “ธรรมเจดีย์” จากประเทศนอร์เวย์ ที่นำมาประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล ในวาระอันเป็นมงคลนี้แต่ประการใดเลย ด้วยว่า ผู้เขียนเองก็ตั้งใจจะไปร่วมสักการะเคารพด้วยอยู่แล้ว แต่ตั้งใจว่า จะตั้งใจอ่านและทำความเข้าใจพระไตรปิฎกเพื่อนำไปเป็นแนวทาง ปฏิบัติธรรมให้ช่ำชองเชี่ยวชาญมากขึ้น ก่อนจะไปกราบสักการะ เพื่อให้การไปกราบเป็นผลดีโดยแท้จริง ด้วยว่าได้กราบพระธรรมจากพระไตรปิฎกแท้ คือใจที่มีธรรมนั่นเอง

สำหรับท่านที่จะไปกราบสักการะ “ธรรมเจดีย์” สมควรตั้งใจสมาทานศีลห้าให้บริสุทธิ์ในวันธรรมดา และรักษาศีลแปดให้บริสุทธิ์ในวันพระ พร้อมหาพระไตรปิฎกมาอ่านอยู่เป็นอาจิณวัตรเถิด จักบังเกิดอานิสงส์ไพศาล

ท่านจันทร์ www.prajan.com

สวัสดีชาวโลก – -‘

2 ต.ค.

Welcome to WordPress.com. This is your first post. Edit or delete it and start blogging!

ใครจะเชื่อ..เกลือคือยาชั้นเลิศ!!

27 ส.ค.
 
 
  เชื่อมั้ยคะ…ว่าเรามียาดีประจำบ้านกันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราคาดไม่ถึง
และมองไม่ออกเท่านั้นเอง แหม..พูดมาซะขนาดนี้ หลายคนคงอยากจะรู้กันแล้วใช่มั้ยคะ!!..
ในขณะที่บางคนก็อาจจะรู้มาบ้างแล้ว..แต่ไม่เป็นไรคะ เพราะวันนี้ เราตั้งใจจะนำมาเผยแพร่เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยนี้
ให้ผู้อ่านได้นำไปปฎิบัติในยามที่ป่วยไข้เบื้องต้น.. 
    สิ่งวิเศษที่เป็นยาชั้นเลิศ อยู่คู่บ้านใกล้ตัวคุณ ก็คือ .." เกลือ " ชนิดที่เค็มๆ หาได้ตามห้องครัวบ้านเรานี่แหละคะ สำหรับอาการต่างๆ
ที่ใช้เกลือช่วยบรรเทาได้ มีดังนี้ 
ไอเพราะเป็นหวัด แค่เอาน้ำเปล่า 1 ถ้วย มาเหยาะเกลือลงไป 1 ช้อนชา คนเบาๆ จนกว่าเกลือจะละลาย แล้วใช้บ้วนปากกลั้วคอหลายๆ ครั้ง
 ความเค็มจะเข้าไปละลายเสมหะในลำคอ ทีนี้ก็ไม่ต้องไอให้คนข้างๆ รำคาญแล้ว
  มึนหัว สมองไม่แล่น สาวทำงานที่เจอแบบนี้อย่ารอช้า รีบรองน้ำอุ่นให้เต็มถัง หยอดเกลือลงไป 2-3 ช้อนชา แล้วเอามาอาบ
รับรองว่าสมองจะโล่งคิดงานได้ปรู๊ดปร๊าด เพราะเกลือช่วยกระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดี มีเลือดไปหล่อเลี้ยงสมอง
 
เร่งให้อาเจียน ถ้าบังเอิญกินสารพิษเข้าไป หรืออึดอัดอาหารไม่ย่อย จนต้องทำให้อาเจียนออกมา
 ให้ดื่มน้ำเกลือเข้มข้นแก้วใหญ่ๆ ไม่นานจะได้อาเจียนสมใจ 
             คัดจมูก จะแค่คัดจมูกน้ำมูกไหล หรือลุกลามจนกลายเป็นโรคจมูกอักเสบก็ตาม
ให้ใช้น้ำเกลือเจือจางหยอดเข้าไปในรูจมูกทั้งสองข้าง
เกลือจะช่วยฆ่าเชื้อโรคในโพรงจมูก จะได้หยุดซี้ดซ้าดปาดน้ำมูกได้เสียที
 
             คันตามผิวหนัง ทาบริเวณที่คันด้วยน้ำเกลือ เชื้อราบริเวณนั้นจะสิ้นฤทธิ์ 
โรคตาแดง โรคนี้มีเชื้อโรคเป็นตัวการอยู่เบื้องหลัง แต่สามารถปฐมพยายาบาลตัวเอง ก่อ นถึงมือหมอได้ง่ายๆ
ด้วยการเอาผ้าขนหนูสะอาดๆ (ถ้าต้มฆ่าเชื้อโรค ก่อ นได้ยิ่งดี) จุ่มน้ำเกลือแล้วเอามาเช็ดตา
อาจจะแสบบ้างแต่นั่นล่ะคือยาดี หลังจากที่เกลือเข้าไปฆ่าเชื้อโรคในตาแล้ว ก็ล้างตาหลายๆ ครั้งด้วยน้ำสะอาด
อาการบวมแดงมีขี้ตาของคุณจะทุเลาลง
 
             แผลยุงกัด ถ้าใครถูกเจ้ายุงตัวร้ายมาขอบริจาคเลือดไป แถมยังทิ้งรอยแผลไว้เป็นที่ระลึก
 อย่ามัวแต่เกาให้เสียลุคส์สาวงาม
รีบๆ ใช้น้ำเกลือทาที่รอยแผล ไม่นานความคันจะหายไป และรอยบวมก็จะยุบเร็วด้วย 
            เคล็ดลับดีๆแบบนี้..รู้แล้วต้องบอกต่อน่ะคะ เป็นวิธีการง่าย 
 
 
ขอบคุณข้อมูลจากกัลยาณมิตร
 
 

หัวข้อการพูดคุย YouTube – MV ทวงคืนเขาพระวิหาร

26 ส.ค.

 

ยกคำพูดมา

YouTube – MV ทวงคืนเขาพระวิหาร

 

ขอบคุณวีดีโอ จาก YouTube 

หัวข้อการพูดคุย YouTube – เพลงลูกทุ่งเขาพระวิหาร

26 ส.ค.

 

ยกคำพูดมา

YouTube – เพลงลูกทุ่งเขาพระวิหาร

 

ขอบคุณวิดีโอ จาก YouTube

ปฎิรูปใครก่อนหนอ?

17 ส.ค.

 

ฏิรูป                        ประเทศ                     พัฒนาไทย
คือธงชัย                     พลิ้วสะบัด                  อยู่เบื้องหน้า
หากมุ่งมั่น                   จริงใจ                        หมายไขว่คว้า
พึงหาญกล้า                 กำราบ                       กำจัดพาล

 ฏิรูป                     "นักการเมือง"              เป็นเบื้องต้น
ให้ล่วงพ้น                "นักกินเมือง"                เลื่องกล่าวขาน
 งาน"การเมือง "         "เพื่อ" การเมือง               อุดมการณ์"
ใช่เพื่อพราง               พร่าผลาญ                     แผ่นดินไทย
 
 ปฏิรูป                      "ข้าราชการ"                 กลไกรัฐ
 ปฏิบัติ                     "ราช-การ"                     งานยิ่งใหญ่
งาน"ในหลวง"            เพื่อปวงชน                   สุขกายใจ
ใช่งานสนอง               ตัณหาใคร                     ตามใจตน
 
 ฏิรูป                      "ประชาชน"                 เป็นรากฐาน
 สัดส่วนมาก              สูงสุด                           สัมฤทธิ์ผล
"อธิปไตย"..              เพื่อประโยชน์                 ประชาชน
นักการเมือง              ร้อยเล่ห์กล                     ฤากล้ำกราย
 
กระบวนการ              ปฏิรูป                            ที่ร่ายเรียง
ล้วนเป็นเพียง           เเนวทาง                          ที่มาดหมาย
หาก "ธรรม"             มิครองใจ                         วาจา กาย
วาระสุดท้าย             ก็ล้มเหลว ..                      เลวต่อไป
 
เหตุไฉน                 "พุทธแท้"                       มิหยั่งจิต
"องค์กรสงฆ์"         เคยครุ่นคิด                       คลางแคลงไหม
สังคมไร้                 "คุณธรรม"..                    เพราะเหตุใด
น่า "ปฏิรูป"             องค์กรไหน                      นำร่องหนอ ? 

 

 

ขอบคุณ พ.ต.ท. รุ่งโรจน์ เรืองฤทธิ์

บรรณาธิการ น.ส.พ. เราคิดอะไร คอลัมน์ ปิดท้าย

น.ส.พ.เราคิดอะไร ปีที่ 16 ฉบับที่ 241 เดือนสิงหาคม 2553

เวลาชีวิต

23 ก.ค.

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คน๕จำพวกนี้ย่อมหลับน้อย"

ตื่น มากในราตรี ๕จำพวกเป็นไฉน? คือ

  สตรีผู้ มุ่งคิดถึงบุรุษ ๑

  บุรุษ ผู้มุ่งคิดถึงสตรี ๑

   โจร ผู้มุ่งคิดลักทรัพย์ ๑

   พระ ราชาผู้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ๑

   ภิกษุผู้มุ่งคิดถึงธรรมที่ปราศจากสังโยชน์ ๑

(สังโยชน์=กิเลส เครื่องร้อยรัดคนไว้กับวัฏฏสงสาร )

 คน ๕จำพวกนี้แล ย่อมหลับน้อยตื่นมากในราตรี"

     (พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๒ข้อ ๑๓๗ )

ทุก วันแต่ละคนมีเวลาใหม่เอี่ยมเท่ากัน คือ๒๔ชั่วโมงหรือ

๑,๔๔๐ นาที หรือ๘๖,๔๐๐นาที

     
แต่ละวินาทีที่ได้เพิ่มจากการหลับพักผ่อนน้อยลงของผู้ที่ใฝ่ใจในกาม

หรือ ผู้ที่มุ่งเบียดเบียนผู้อื่น
กลับเป็นวินาทีที่ยืดวัฏฏสงสารให้ยาวนานออกไป

 

แต่ ในวินาทีเดียวกันนั่นเอง
กลับเป็นวินาทีบุญของผู้เสียสละบำเพ็ญประโยชน์

เพื่อ ผู้อื่น
หรือเป็นวินาทีธรรมของผู้มุ่งมั่นแน่วแน่ในการชำระถ่ายถอนกิเลส

เวลามีความหมายยิ่งนัก สำหรับผู้รู้คุณค่าเวลาชีวิต
ที่มีสิทธิ์กลับสู่เชิงตะกอน

ทุก คนทุกขณะทุกวินาที

ขอให้วันเวลาที่ทุกคนมี
เหลืออยู่จงเป็นไปเพื่อประโยชน์เพื่อความสุขแก่ตน

แก่ท่านและชาติศาสนาพระมหากษัตริย์เทอญ.

    เจริญธรรมนำสุข 

 

พุทธธรรมนำสุข : ธรรมะเพื่อความรุ่งเรือง

23 ก.ค.

ตักบาตรพระล้านครั้ง ไม่เท่ายื่นอาหารให้พ่อแม่
เพียงครั้งเดียว

ความ
ดีของลูก คือความสุขของพ่อ แม่ ความเลวของลูก คือความทุกข์ของพ่อแม่

หลง ผัว หลงเมีย จนลืมพ่อแม่ นับว่าแย่
มาก

อยาก
รวย ให้ทำงาน อยากสวยให้รักษาศีล อยาก ดี ให้หมั่นเจริญภาวนา

คน ฉลาด กำลังทำงาน ส่วนคนโง่
กำลังดูฤกษ์ยาม

หนึ่ง
วินาที คบบัณฑิต ดีกว่าหนึ่งปี คบคนพาล

อย่าประมาทเมื่อพบงาน ง่าย
อย่าท้อใจเมื่อพบงานยาก

ถ่อมตนคนรัก อวดนักคนชัง (อวดดี…ไม่ใช่การอวดที่ ดี)

เสริมเสน่ห์ตนเองด้วยรอย ยิ้ม
ดีกว่าคอยพึ่งพิงสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์

ไม่ควรไว้ใจในคนที่ชอบทำ บาป
(ถ้าทำบาปแลกบุญ จะขาดทุนร่ำไป)

คนจนยิ่ง จน เพราะทำรวย คนรวยยิ่งรวย
เพราะทำ จน

เรา
ยอมแพ้คน เพื่อเอาชนะกิเลส ดีกว่ายอมแพ้ กิเลส เพื่อเอาชนะคน

ยามไปซื้อ ของ อย่าอวดเงินทองให้ใครเห็น

คำสรรเสริญควรให้ไป คำติ ชม
ควรเก็บไว้เพื่อส่องตน

ระวัง อย่าให้สูญเสียคนดี เพราะคนชั่วแทนที่ไม่ ได้

คนโง่ แสวงหาพระเครื่อง ผู้ฉลาด
แสวงหาพระ ธรรม

ทำ
แบบ เจ็ก จากเล็กไปใหญ่ ทำแบบไทย จากใหญ่ไปหาเล็ก


มารยาทงามนี่แหละ จะพลอยทำให้วาสนา ดี

เพื่อนบ้านที่อยู่ ใกล้
ดีกว่าพี่น้องในไส้ที่อยู่ไกล

ประดับกายด้วยความดี มีราศีกว่าประดับ
เพชร

กิน
เหล้าเพื่อเข้า สังคม คือค่านิยมที่ผิด

ความร่ำรวยหากขอกัน ได้
โลกนี้ก็คงจะไม่มีคนจน

ทรัพย์เกิดไม่ได้ ด้วยเพียงแต่ใจคิด ฝัน

ตัวอย่างที่ดี มีค่ามากกว่าคำ สอน
การปฏิบัติดีมีค่ามากกว่าการขอพร

คนขยันคือคนโชค ดี
ความขยันจึงเป็นพรอันประเสริฐ

ถึงแม้การเลือกเกิดเราจะไม่มี สิทธิ์
แต่การเลือกทางชีวิตเป็นสิทธิ์ของ เรา

แสวงหาลาภจากการ งาน ดีกว่าบนบานบวงสรวง

อย่าเชื่อคนโดยไร้คิด
อย่าหลงมิตรเพียงคำยอ

ที่ทำดีไม่ได้ ดี เพราะทำดียังไม่มากพอ (ทำดีวันละนิด
ดีกว่าคิดว่าจะทำ)

เมื่อมีคำขอโทษ ความโกรธย่อมจางเร็ว

วาจาอ่อนหวานลูกหลานใกล้ชิด
วาจาเป็นพิษญาติมิตรห่างไกล

กินเพื่ออิ่ม ก็จะมีปัญหา น้อย
แต่ถ้ากินเพื่ออร่อยก็จะมีปัญหามาก

ขอบคุณกัลยาณมิตรที่แบ่งปัน

ขอบคุณพระครูบาอาจารย์ที่สอนสั่ง

ธรรมรักษาทุกท่าน

หัวข้อการพูดคุย YouTube – รอยยิ้มของคนไทย คือ รอยยิ้มของพ่อ

17 ก.ค.

 

ยกคำพูดมา

YouTube – รอยยิ้มของคนไทย คือ รอยยิ้มของพ่อ

 

                         
                                  ขอบคุณวิดีโอจาก You Tube